วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัด เรื่อง หน้าต่างดีไวซ์เมเนเจอร์

**ดีไวซ์ไดรเวอร์ และโปรแกรมดีไวซ์เมเนเจอร์**

ดีไวซ์ไดรเวอร์( Device Driver) คืออะไร ?
ดี ไวซ์ไดรเวอร์( Device Driver) เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่เชื่อมการทำงานระหว่างฮาร์ดแวร์กับโปรแกรมหรือระบบ ปฎิบัติการที่ใช้งานซอพท์แวร์นั้น

ในขั้นตอนการติดตั้งระบบปฏิบัติ การนั้น โปรแกรมติดตั้งจะคิดหาและติดตั้งไดรเวอร์ใหักับอุปกรณ์พื้นฐานต่างๆ ให้อยู่แล้ว และเหลือบางส่วนที่ท่านจะต้องติดตั้งเพิ่มด้วยตนเอง

โปรแกรมดีไวซ์เมเนเจอร์ (Device Manager)
โปรแกรมดีไวซ์เมเจอร์ เป็นส่วนหนึ่งของระบบปฎิบัติการ Windows XP ทำหน้าที่จัดการดีไวซ์ไดรเวอร์ของระบบปฎิบัติการ เช่น
- ตรวจสอบได้ว่าฮาร์ดแวร์ของเครื่องทำงานได้เป็นปกติหรือไม่
- ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าฮาร์ดแวร์ต่างๆ
- ระบุรายละเอียดของดีไวซ์ไดรเวอร์ที่่ใช้งานอยู่
- ติดตั้งและยกเลิกการติดตั้งดีไวซ์ไดรเวอร์
- หยุดหรือเริ่มใช้งานดีไวซ์ไดรว์เวอร์
- ตรวจสอบและระบุสาเหตุของปัญหาการใช้ทรัพยากรของฮาร์ดแวร์

1. การเรียกใช้งานโปรแกรมดีไวซ์ เมเนเจอร์ (Device Manager)
1.1 คลิ๊กขวาที่ My Computer แล้วเลือกรายการ Manage



1.2 ในโปรแกรม Computer Management ให้คลิ๊กไอคอน Device Manager ที่อยู่ทางซ้ายมือ



2. การดูข้อมูลของดีไวซ์ไดรเวอร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์
สิ่ง แรกที่เรามักจะทำก่อนแก้ปัญหาเกี่ยวกับดีไวซ์ไดรเวอร์ คือการสำรวจตรวจสอบข้อมูลของดีไวซ์ไดรเวอร์ ซึ่งมีขั้นตอนและรายละเอียดดังนี้
2.1 เรียกใช้งานโปรแกรมดีไวซ์เมเนเจอร์ (ตามข้อ 1)
2.2 โปรแกรมดีไวซ์เมเนเจอร์จะแสดงข้อมูลของดีไวซ์ไดรเวอร์ในหลายรูปแบบ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในมุมมองตามชนิดของฮาร์ดแวร์ ( by Device Type) โครงสร้างต้นไม้โดยระดับแรกที่ต่อจากเครื่องจะแสดงประเภทของฮาร์ดแวร์ ขณะที่กิ่งที่อยู่ระดับถัดไป(แสดงได้โดยกดเครื่องหมาย +) ที่อยู่ข้างหน้า จะเชื่อมไปยังดีไวซ์ไดรเวอร์ของอุปกรณ์นั้นอีกที



2.3 ให้คลิ๊กขวาที่ดีไวซ์ไดรเวอร์ แล้วเลือกรายการ Properties



ท่าน จะพบกับรายละเอียดของดีไวซ์ไดเวอร์ ภายในแท็บต่างๆ เช่น General ,Driver ,Detail Resource เป็นต้น(แท็บเหล่านี้จะเปลี่ยนไปตามประเภทอุปกรณ์ด้วย)





2.4 หากดีไวซ์ไดรเวอร์เกิดปัญหาขึ้นจะแสดงสัญลักษณ์ให้เห็นดังนี้
- เครื่องหมาย ! แสดงว่าดีไวซ์ไดรเวอร์มีปัญหา อาจเพราะติดตั้งดีไวซ์ไดรเวอร์ผิดรุ่น หรือมีการกำหนดค่าต่างๆ ชนกันเอง


- เครื่องหมายกากบาทแดง แสดงว่ามีการปิดการใ้ช้งานอุปกรณ์นั้นๆ ชั่วคราว


- เครื่องหมายคำถาม ? แสดงว่าอุึปกรณ์นั้นยังไม่ได้ติดตั้งดีไวซ์ไดรเวอร์

แบบฝึกหัด บริดจ์ เราต์เตอร์ เกตเวย์

 **แบบฝึกหัด**
บริดจ์ (Bridge)
      บริดจ์ เป็นอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายของเครือข่ายที่แยกจากกัน แต่เดิมบริดจ์ได้รับการออกแบบมาให้ใช้
กับ เครือข่ายประเภทเดียวกัน เช่น ใช้เชื่อมโยงระหว่างอีเทอร์เน็ตกับ อีเทอร์เน็ต (Ethernet) บริดจ์มีใช้มานานแล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980
บริดจ์ จึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างสองเครือข่าย การติดต่อภายในเครือข่ายเดียวกันมีลักษณะการส่ง ข้อมูลแบบกระจาย (Broadcasting) ดังนั้น จึงกระจายได้เฉพาะเครือข่ายเดียวกันเท่านั้น การรับส่งภายในเครือข่ายมีข้อกำหนดให้แพ็กเก็ตที่ส่งกระจายไปยังตัวรับได้ ทุกตัว แต่ถ้ามีการส่งมาที่แอดเดรสต่างเครือข่าย บริดจ์จะนำข้อมูลเฉพาะแพ็กเก็ตนั้นส่งให้ บริดจ์จึงเป็นเสมือนตัวแบ่งแยกข้อมูล ระหว่างเครือข่ายให้มีการสื่อสารภายในเครือข่าย ของตน ไม่ปะปนไปยังอีกเครือข่ายหนึ่ง เพื่อลดปัญหาปริมาณข้อมูลกระจายในสายสื่อสารมากเกินไป ในระยะหลังมีผู้พัฒนาบริดจ์ให้เชื่อมโยงเครือข่ายต่างชนิดกันได้ เช่น อีเทอร์เน็ตกับโทเก็นริง เป็นต้น หากมีการเชื่อมต่อเครือข่ายมากกว่าสองเครือข่ายเข้าด้วยกัน และเครือข่ายที่เชื่อมมีลักษณะหลากหลาย ซึ่งเป็นทั้งเครือข่ายแบบ LAN และ WAN อุปกรณ์ที่นิยมใช้ในการเชื่อมโยงคือ เราเตอร์ (Router)
    บริดจ์ เป็นอุปกรณ์ที่มักจะใช้ในการเชื่อมต่อวงแลน  (LAN Segments)   เข้าด้วยกัน ทำให้สามารถขยายขอบเขตของ LAN ออกไปได้เรื่อยๆ โดยที่ประสิทธิภาพรวมของระบบ ไม่ลดลงมากนัก เนื่องจากการติดต่อของเครื่องที่อยู่ในเซกเมนต์เดียวกันจะไม่ถูกส่งผ่าน ไปรบกวนการจราจรของเซกเมนต์อื่น และเนื่องจากบริดจ์เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานอยู่ในระดับ Data Link Layer    จึงทำให้สามารถใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายที่แตกต่างกันในระดับ Physical และ Data Link ได้ เช่น ระหว่าง Eternet กับ Token Ring เป็นต้น


 
Router (เราท์เตอร์) คือ อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในเลเยอร์ 3 หรือเลเยอร์เครือข่าย Router จะฉลาดกว่า Hub และ Switch

Wireless_Router

          Router จะอ่านที่อยู่ (Address) ของสถานีปลายทางที่ส่วนหัว (Header) ของแพ็กเก็ตข้อมูล เพื่อใช้ในการกำหนด หรือเลือกเส้นทางที่จะส่งแพ็กเก็ตนั้นต่อไป ใน Router จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการจัดเส้นทางให้แพ็กเก็ต เรียกว่า Routing Table (เราติ้งเทเบิ้ล) หรือ ตารางการจัดเส้นทาง ข้อมูลในตารางนี้จะเป็นข้อมูลที่ Router ใช้ในการเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดไปยังปลายทาง ถ้าเส้นทางหลักเกิดขัดข้อง Router ก็สามารถเลือกเส้นทางใหม่ได้

          นอกจากนี้ Router ยังสามารถส่งข้อมูลไปยังเครือข่ายที่ใช้โปรโตคอลต่างกันได้ โปรโตคอลที่ทำหน้าที่ในเลเยอร์ที่ 3 เช่น IP (Internet Protocol), IPX (Internet Package Exchange) และ Apple Talk เป็นต้น นอกจากนี้ Router ยังสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกล (Wan) ได้ และยังสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายเข้ากับเครือข่ายอื่น ๆ ที่ใหญ่กว่า เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นต้น

Switch (สวิตซ์) คือ อุปกรณ์เครือข่ายที่ทำหน้าที่ใสเลเยอร์ที่ 2 Switch บางทีก็เรียกว่า Switching Hub (สวิตชิ่งฮับ) ซึ่งในช่วงแรกนั้นจะเรียกว่า Bridge (บริดจ์) เหตุผลที่เรียกว่าบริดจ์ในช่วงแรกนั้น เพราะส่วนใหญ่บริดจ์จะมีแค่สองพอร์ต และใช้สำหรับแยกคอลลิชันโดเมน ปัจจุบันที่เรียกว่า Switch เพราะหมายถึง บริดจ์ที่มีมากกว่าสองพอร์ตนั่นเอง
Switch1
          Switch จะฉลาดกว่า Hub คือ Switch สามารถส่งข้อมูลที่ได้รับมาจากพอร์ตหนึ่งไปยังเฉพาะพอร์ตที่เป็นปลายทางเท่า นั้น ทำให้คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับพอร์ตที่เหลือสามารถส่งข้อมูลถึงกัน และกันได้ในเวลาเดียวกัน การทำเช่นนี้ทำให้อัตราการส่งข้อมูล หรือแบนด์วิธไม่ขึ้นอยู่กับจำนวนคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับ Switch คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะมีแบนด์วิธเท่ากับแบนด์วิธของ Switch

          ด้วยข้อดีนี้เครือข่ายที่ติดตั้งใหม่ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะนิยมใช้ Switch มากกว่า Hub เพราะจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการชนกันของข้อมูลในเครือข่าย

เกตเวย์ (Gateway)
     เป็น อุปกรณ์ที่มีความสามารถสูงในการเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยสามารถเชื่อมต่อ LAN หลายๆ เครือข่ายที่ใช้โปรโตคอลต่างกัน และใช้สื่อส่งข้อมูลต่างชนิดกันได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ตัวอย่างเช่น เชื่อมต่อ Ethernet LAN ที่ใช้สายส่งแบบ UTP เข้ากับ Token Ring LAN ได้

เก ตเวย์เป็นเหมือนนักแปลภาษาที่ทำให้เครือข่ายที่ใช้โปรโตคอลต่างชนิดกัน สามารถสื่อสารกันได้ หากโปรโตคอลที่ใช้รับส่งข้อมูลของเครือข่ายทั้งสองไม่เหมือนกันเกตเวย์ ก็จะทำหน้าที่แปลงโปรโตคอลให้ตรงกับปลายทางและเหมาะสมกับอุปกรณ์ของ ฮาร์ดแวร์ที่แต่ละเครือข่ายใช้งานอยู่นั้นได้ด้วย ดังนั้นอุปกรณ์เกตเวย์จึงมีราคาแพงและขั้นตอนในการติดตั้งจะซับซ้อนที่สุดใน บรรดาอุปกรณ์เครือข่ายทั้งหมด

แบบฝึกหัด เรื่อง เครือข่ายคอมพิวเตอร์


**แบบฝึกหัด**

1.การเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์  ที่ติดตั้งภายในห้องเดียวกันเป็นเครือข่ายแบบใด

ตอบ     เครือข่ายภายใน หรือ แลน (Local Area Network: LAN
เป็นเครือข่ายที่ใช้ในการ เชื่อมโยงกันในพื้นที่ใกล้เคียงกัน เช่นอยู่ใน
ห้อง หรือภายในอาคารเดียวกัน
แลน ( Local Area Network หรือ LAN) หรือ ข่ายงาน
บริเวณเฉพาะที่ เป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ถึงกัน
ทั้งหมดโดยอาศัยสื่อกลาง มีการแบ่งแยกเครือข่ายออกเป็น 2 
รูปแบบการเชื่อมโยงคือ การเชื่อมโยงภายในพื้นที่ระยะใกล้หรือ
 แลน (LAN) และการเชื่อมโยงระยะไกลหรือแวน (WAN) โดย
การเชื่อมโยงเครือข่ายแบบแลน มี 3 รูปแบบ คือ
  1. Bus มีการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็ว 10-100 MB/sจะเชื่อมต่อกันบนสายสัญญาณเส้นเดียวกัน โดยจะมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า T-Connector เป็นตัวแปลงสัญญาณข้อมูลเพื่อนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และ Terminator ในการปิดหัวท้ายของสายในระบบเครือข่ายเพื่อดูดซับข้อมูลไม่ให้เกิดการสะท้อนกลับของสัญญาณ
  2. Star เป็นระบบที่มีเป็นการต่อแบบรวมศูนย์ โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะต่อสายเข้าไปที่อุปกรณ์ที่เรียกว่า Hub หรือ Switch โดยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Hub หรือ Switch จะทำหน้าที่เปรียบศูนย์กลางที่ทำหน้าที่กระจายข้อมูล โดยข้อดีของการต่อในรูปแบบนี้คือ หากสายสัญญาณเกิดขาดในคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง เครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆจะสามารถใช้งานได้ปรกติ แต่หากศูนย์กลางคือ Hub หรือ Switch เกิดเสียจะทำให้ระบบทั้งระบบไม่สามารถทำงานได้ทั้งระบบ
  3. Ring เป็นระบบที่มีการส่งข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะมีเครื่อง Server หรือ Switch ในการปล่อย Token เพื่อตรวจสอบว่ามีเครื่องคอมพิวเตอร์ใดต้องการส่งข้อมูลหรือไม่และระหว่างการส่งข้อมูลเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆที่ต้องการส่งข้อมูลจะต้องทำการรอให้ข้อมูลก่อนหน้านั้นถูกส่งให้สำเร็จเสียก่อน
ข้อดีของระบบ LAN
  1. เนื่องจาผู้ใช้คอมพิเตอร์ในวง LAN เดียวกันสามารถใช้ทรัพยากรที่มีในวง LAN ร่วมกันได้ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อสำหรับอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ เช่น เครื่องพิมพ์ หรือสแกนเนอร์ เป็นต้น
  2. การขนย้ายข้อมูลระหว่างเครื่องต่อเครื่องในระบบ ทำได้รวดเร็วกว่าการขนย้ายข้อมูลด้วยแผ่นดิสเก็ต
  3. เป็นระบบพื้นฐานในการเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต
ข้อเสียของระบบ LAN
  1. ถ้าสายขาดจะไม่สามารถโอนถ่ายข้อมูลได้



2.เครือข่ายคอมพิวเตอร์ชนิดใดที่ไม่จำเป็นต้องมีสายรับส่งสัญญาณ

ตอบ  เครือข่ายส่วนบุคคล หรือ แพน (Personal area network) : PAN) เป็นเครือข่ายไร้สาย

(PAN) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับการติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่อง คอมพิวเตอร์และข้อมูลทางเทคโนโลยีใกล้เคียงกับอุปกรณ์ที่แตกต่างกันหนึ่งคน Some examples of devices that are used in a PAN are personal computers, printers, fax machines, telephones, PDAs, scanners, and even video game consoles. ตัวอย่างของอุปกรณ์ที่ใช้ในกระทะมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเครื่องพิมพ์เครื่องแฟกซ์, โทรศัพท์, PDA, สแกนเนอร์และแม้แต่วิดีโอเกมคอนโซล A PAN may include wired and wireless devices. แพนอาจรวมถึงการมีสายและอุปกรณ์ไร้สาย The reach of a PAN typically extends to 10 meters. A wired PAN is usually constructed with USB and Firewire connections while technologies such as Bluetooth and infrared communication typically form a wireless PAN. PAN เข้าถึงของมักจะขยายไปถึง 10 เมตร สายปันมีการก่อสร้างมักจะมีการเชื่อมต่อ USB และ Firewire ในขณะที่เทคโนโลยี         เช่นบลูทูธ และอินฟราเรดโดยทั่วไปรูปแบบการสื่อสารแบบไร้สายแพน


3.เครือข่ายแพนมักมีผู้ใช้งานกี่คน

ตอบ   มีคนใช้ 1 คน
. PAN ( PERSONAL AREA NETWORK) เครือข่ายแบบบุคคล
-เชื่อมโยง อุปกรณ์การสื่อสารหลายๆ เครื่องเข้าด้วยกัน
-ระยะทางการเชื่อมต่อ ไม่เกิน 1 เมตร
-ความเร็ว ประมาณ 10  Mbps
-ใช้สื่อ IrDA Port, Bluetooth, Wireless







4.เครือข่ายคอมพิวเตอร์มีขนาดใหญ่ที่สุดเรียกว่าอะไร

ตอบ
ระบบเครือข่ายแบบ WAN หรือระบบเครือข่ายบริเวณกว้าง จะเป็นระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยงเครือข่ายแบบท้องถิ่นตั้งแต่ 2 เครือข่ายขึ้นไปเข้าด้วยกันผ่านระยะทางที่ไกลมาก โดยการเชื่อมโยงจะผ่านช่องทางการสื่อสารข้อมูลสาธารณะของบริษัทโทรศัพท์หรือองค์การโทรศัพท์ของประเทศต่างๆ เช่น สายโทรศัพท์แบบอนาลอก สายแบบดิจิตอล ดาวเทียม ไมโครเวฟ เป็นต้น



 
*********************************************

เพลินวาน ณ หัวหิน


Resume:: Fern Jar Fern

**Fern**

          (1.) :D ชื่อ ด.ญ. จินดารัตน์  จินดารัศมี..ชื่อเล่น "ต้นเฟิร์น" เกิดวันที่ 20 มกราคม 1998
                 Hobby : surf Internet , social chat
                 E-mail : jin.fern@hotmail.com



 **Jar**

(2.) :P ชื่อ ด.ญ. โสมธิดา  ณ นคร..ชื่อเล่น "จ๊ะจ๋า" เกิดวันที่ 12 มิถุนายน 1997
                 Hobby : ดูซีรีย์ , gossip star
                 E-mail : somtida-lovetono@hotmail.com



**Fern**

 (3.) :O ชื่อ ด.ญ. กุลนิษฐ์  นิลปักษี..ชื่อเล่น "ใบเฟิร์น" เกิดวันที่ 4 กันยายน 1998
                 Hobby : gossip star , ฟังเพลง
                 E-mail : kunlanit_fern@hotmail.com



เปิดประตูสู่โลกกว้างให้สิ่งรอบข้างเป็นครู


วันแรกของการเดินทาง >>
"เขื่อนรัชชประภา"
                
เราได้เดินทางไปเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน(เขื่อนรัชชประภา) หรือ กุ้ยหลิน เมืองไทย จ.สุราษฎร์ธานี ที่เค้าร่ำลือ ว่า สวยมาก  แล้วก็อย่างที่เค้าบอกจริงๆแหละ มันสวยมากจริงๆ ตื่นตาตื่นใจ เลยทีเดียว         


วันที่สอง  >>

"พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ"


  
 “อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์”สัมผัสกับมหัศจรรย์โลกใต้น้ำ มีทั้งสีสันความสวยงามของสัตว์น้ำหลากหลายชนิด ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มในมิติใหม่

"อาคารดาราศาตร์"


เรียนรู้กับฐานการเรียนเกี่ยวกับความเป็นไปในจักรวาล...ฟากฟ้า ณ หว้ากอ

"เพลินวาน"



เพลินวาน “ศูนย์รวมความสุข สถานที่... หยุดเวลาในอดีตไว้ เพื่อเล่าขานเรื่องราวมากมายของวิถีหัวหินกาลก่อน ...สู่กาลปัจจุบัน”




วันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ  >>


"วัดห้วยมงคล"

 


 กราบสักการะ สมเด็จหลวงพ่อทวด เหยียน้ำทะเลจืด“วัดห้วยมงคล” เป็นวัดที่ประดิษฐานรูป  เหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก  

"ด่านสิงขร"


ตลาดชายแดนที่ขายสินค้าพื้นเมืองทั้งของคนไทยและพม่า